Generative AI

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา บริษัท OpenAI ได้เปิดตัว ChatGPT ซึ่งเป็นปัญญาประดิษฐ์ (artificial intelligence: AI) ที่สามารถโต้ตอบบทสนทนาที่เป็นตัวหนังสือได้อย่างคล่องแคล่ว และท่าทางจะฉลาดมากเสียด้วย โดยในช่วงต้นปี OpenAI ก็เพิ่งเปิดตัว DALL-E 2 ไปเช่นกัน

ก่อนอื่นเราลองไปดูความสามารถของ ChatGPT กันก่อน โดยเริ่มง่าย ๆ จากการให้ตอบคำถามอะไรเอ่ยดู

What occurs once in a minute, twice in a moment, and never in 1,000 years?

The answer to this riddle is the letter "M." The letter "M" occurs once in the word "minute," which is a unit of time equal to 60 seconds. It also occurs twice in the phrase "a moment," which is a very brief period of time. However, the letter "M" does not occur at all in the number 1,000, which is a measure of time equal to 1,000 years.

แน่นอนว่าอันนี้อาจจะหาจากในอินเทอร์เน็ตมาก็ได้ เราลองมาให้ ChatGPT ทำอะไรที่สร้างสรรค์บ้าง เช่น ลองให้ดัดแปลงเพลง "Itsy Bitsy Spider" (แมงมุมลายตัวนั้น)

Alter the lyrics of the first verse of "Itsy Bitsy Spider" so that it talks about generative AI.

The itsy bitsy generative AI climbed up the water spout,
Down came the data and fed the AI all about,
Out came the insights and blew our minds away,
With the power of generative AI at play.

การที่ AI อย่าง ChatGPT (รวมถึง DALL-E) ซึ่งเรียกกว้าง ๆ ว่าเป็น generative AI ได้รับความสนใจค่อนข้างมาก ก็ด้วยความสามารถในการ "สร้าง" สิ่งใหม่ ๆ ขึ้นมาได้ หรืออาจเรียกได้ว่ามี "ความคิดสร้างสรรค์" ขึ้นมานั่นเอง¹

ก่อนหน้านี้ AI มักจะเป็นที่รู้จักในการทำงานพวกการจำแนกกลุ่ม เช่น บอกว่าตัวหนังสือที่เขียนด้วยลายมือคือตัวอะไร บอกว่าอีเมลนี้เป็น spam หรือไม่ บอกว่าผลไม้ลูกไหนเสียบ้าง บอกว่ารูปไหนคือรูปสุนัข หรือบอกว่าพวงมาลัยรถควรหมุนไปกี่องศาเพื่อให้รถอยู่กลางเลนได้อยู่ ซึ่งงานในลักษณะนี้เป็นงานที่ค่อนข้างซ้ำซากจำเจ และมีงานศึกษามากมายที่บอกว่า AI อาจมาทดแทนแรงงานทักษะต่ำ เช่น พนักงานในโรงงานผลไม้ เจ้าหน้าที่คัดแยกจดหมาย หรือคนขับรถได้[^b]

แต่ generative AI อย่าง ChatGPT หรือ DALL-E ที่สามารถ "สร้าง" สิ่งใหม่ ๆ ขึ้นมา หรือโต้ตอบกับมนุษย์ได้อย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้เห็นว่า AI ไม่เพียงแต่จะสามารถทดแทนแรงงานทักษะต่ำได้เท่านั้น แต่อาจสามารถมาทดแทนกลุ่มแรงงานทักษะปานกลางหรือแม้กระทั่งทักษะสูงได้ โดย Sequoia Capital บริษัท venture capital ยักษ์ใหญ่ที่ลงทุนกับบริษัทเทคโนโลยีมากมาย ได้ทำนายไว้ว่าในอีกไม่กี่ปี AI จะสามารถเขียนได้ดีกว่าคนทั่วไป

แม้ว่าในปัจจุบัน generative AI เหล่านี้ยังมีข้อจำกัด เช่น ยังสับสน ไม่เข้าใจภาษาที่ซับซ้อนได้ในบางครั้ง แต่ในบางกรณีก็สามารถตอบคำถามได้อย่างน่าทึ่ง

ลองไปดูตัวอย่างชาวเน็ตที่ทึ่งกับความสามารถของ ChatGPT กัน

• คนแรกให้ ChatGPT มาช่วยตรวจ code ให้ นอกจากจะแก้ให้แล้วยังช่วยอธิบายขั้นตอนการแก้ด้วย

• คนต่อมาใช้ ChatGPT เขียนรายงานวิชาประวัติศาสตร์

• หรือแม้กระทั่งให้ ChatGPT ช่วยคิด ว่าถ้าเขาเป็น data engineer ที่ Twitter ที่นั่งชิว ๆ ไม่ทำอะไรอยู่ แล้วคุณ Elon Musk มาถามว่าทำอะไรไปบ้าง จะตอบว่าทำอะไรดี พร้อมกับช่วยเขียน code ให้อีกต่างหาก

ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา เทคโนโลยีเข้ามาทดแทนแรงงานมนุษย์ได้เรื่อย ๆ เสมอ แต่มนุษย์เองก็หาทางปรับตัวให้ทำงานร่วมกับเทคโนโลยีได้เรื่อย ๆ เช่นกัน

เรื่องที่อาจจะเป็นตัวอย่างที่ดีมากคือเรื่องราวของคุณ Andrew Mayne ที่เป็นนักเขียนชื่อดัง ซึ่งแทนที่จะกังวลว่า ChatGPT จะมาทำงานเขียนนิยายแทนเขาหรือไม่ เขากลับชวน ChatGPT มาเขียนโครงร่างของนิยายด้วยกัน

เราคงต้องมาหาทางทำงานร่วมกับ ChatGPT แล้วล่ะครับ

Tip

ท่านสามารถไปลองใช้ ChatGPT ได้แล้ววันนี้ โดยในปัจจุบันภาษาที่ใช้ได้ดีคือภาษาอังกฤษ ChatGPT สามารถโต้ตอบเป็นภาษาไทยได้ แต่ก็ยังดูมึน ๆ อยู่บ้างเล็กน้อย นอกจากนี้ ด้วยความดังของ ChatGPT ทำให้คนเข้ามาลองกันเยอะมากจนระบบเริ่มช้าและใช้งานไม่ได้ในบางขณะ Sam Altman ซึ่งเป็น CEO ของ OpenAI ได้ออกมาบอกว่า OpenAI กำลังเร่งแก้ปัญหานี้อยู่

Note

ชื่อบทความนี้ ก็เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างผู้เขียนกับ ChatGPT นะ โดยเริ่มจาก prompt ว่า "ช่วยตั้งชื่อบทความที่ฟังดูเจ๋ง ๆ เกี่ยวกับ generative AI ที่ต้องทำให้แรงงานทักษะสูงปรับตัว ซัก 5 ตัวอย่าง" ส่วนภาพประกอบ ก็สร้างโดย DALL-E 2 ด้วยข้อความ "people and robots standing in line in front of a desk with a corporate employee sitting and a sign saying 'Jobs', colorful children book illustration"

Note

บทความนี้ปรากฏเป็นครั้งแรกใน PIER Blog "Generative AI: ถึงเวลาที่แรงงานทักษะสูงจะต้องปรับตัว"