วันนี้นอกจากข่าวการชุมนุมของกลุ่มประชาชนปลดแอกเมื่อคืนที่ผ่านมาแล้ว บางคนอาจจะได้เห็นข่าวสภาพัฒน์ฯ ประกาศ GDP ไตรมาส 2 ติดลบ 12.2% เป็นข่าวเล็ก ๆ ในช่วงเช้า
สังเกตเห็นหลายคนสับสน เนื่องจากเห็นว่าประเทศไทยพึ่งพาการส่งออก การท่องเที่ยวเยอะ น่าจะได้รับผลกระทบจากโควิดเยอะไปด้วย แต่ไฉนเลย GDP ซึ่งวัดระดับกิจกรรมทางเศรษฐกิจในไตรมาสที่สองของปีนี้ กลับติดลบแค่ 12.2% ในขณะที่ประเทศอย่างสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น ยุโรป ติดลบกันหลัก 30–40% ทั้งนั้น
TL;DRของไทยเป็นเลข % YoY (เทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อน) ขณะที่ของประเทศอื่นที่เป็นระดับ 30–40% เป็นเลข % QoQSAAR (เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า แบบปรับฤดูกาล และคิดเป็นรายปี)
ทำความเข้าใจ GDP เบื้องต้น
ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า GDP หรือ gross domestic product แปลเป็นไทยยาว ๆ ว่า "ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ" เป็นเครื่องมือหนึ่งที่นิยมใช้กันในการวัดระดับกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ดังนั้น สมมติว่าในไตรมาสนี้ทุกคนนอนหลับกันหมด ไม่มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจเลยยยยย GDP ก็จะเป็นศูนย์เท่านั้น
อ้าว แล้ว GDP ติดลบได้ไง แปลว่าของที่เรามีอยู่หายไปเหรอ
ไม่ใช่นะครับ เลขที่เรามักเห็นในข่าวไม่ใช่ GDP แต่เป็นอัตราการขยายตัวของ GDP ครับ
Noteในบทความนี้ จะพูดถึง GDP ที่เป็นแบบปริมาณลูกโซ่ (chain volume measures) คือเป็นเลขที่หักผลของราคาที่เปลี่ยนแปลงไปออกแล้ว หรือที่มักเรียกกันว่า real GDP
อัตราการขยายตัวของ GDP
เราสนใจอัตราการขยายตัวของ GDP ก็เพราะมันบอกเราได้ว่า เทียบกับเมื่อก่อนแล้ว เราผลิตสินค้าและบริการได้มากขึ้นเท่าไหร่ แน่นอนว่ายิ่งเราผลิตของได้มาก ก็ยิ่งมีรายได้มาก มาตรฐานชีวิตความเป็นอยู่ สภาพเศรษฐกิจ ความอยู่ดีกินดีของประชาชน ก็น่าจะสัมพันธ์กับรายได้ที่เพิ่มขึ้น (หรือลดลง) ด้วย
สังเกตว่าเขียนว่า "เทียบกับเมื่อก่อน" นั่นก็เพราะเราสามารถเทียบกับ "